นวัตกรรมดึงหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด
ถ้าพูดถึงการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้าเราก็จะต้องเข้าใจถึงหลักการของมัน คือ การเอาผิวหนังส่วนเกิน ที่เกิดจากการยืดและหย่อนยานออก โดยตัดเนื้อส่วนนั้นแล้วมาเย็บให้ผิวตึงขึ้นมาและซ่อนแผลเป็นรอยเย็บไว้ที่หน้าหูหรือหลังหู ในกรณีที่เป็นการลิฟท์ (Lifting) ใบหน้าส่วนล่างหรืออาจจะมีรอยศัลยกรรมที่มีการเย็บบริเวณแถวก่อนขมับหรือหลังไรผม ผลลัพธ์ก็คือจะต้องมีการเลาะเนื้อเยื่อซึ่งผู้ป่วยอาจจะมีผลข้างเคียง คือ มีอาการชาเป็นระยะเวลายาวนานหรือเป็นตลอดไปขึ้นอยู่กับการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อตรงนั้นว่ามีมากน้อยแค่ไหนและมีโอกาสที่จะการเกิดแผลเป็นซึ่งอาจจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเนื้อเยื่อของบุคคลนั้น ๆ วัฒนาการของการรักษาอีกแนวทางหนึ่งเรียกว่า Dermal Coring มันคือการเอาเนื้อเยื่อของชั้นผิวหนังแท้ทั้งชั้นหรือเกือบทั้งชั้นออกมาเป็นแท่งเล็กๆในระดับที่เล็กกว่า 400 ไมครอน ซึ่งการเอาเนื้อเยื่อออกในระดับเล็กๆเหล่านี้ จะทำให้การหายของผิวนั้นไม่มีร่องรอยและหายได้เร็ว เริ่มแรกเดิมทีที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ทำการทดลองโดยใช้ Mechanical ซึ่งเป็นการใช้เข็มชนิดพิเศษที่เอาเนื้อเยื่อออกมาสามารถเอาผิวหนังออกมาโดยไม่ต้องมีการผ่าตัดได้อยู่ในระดับ 6-8 % จากนั้นก็มีวิวัฒนาการ โดยใช้เลเซอร์ที่เป็นเลเซอร์ชนิดพิเศษที่เรียกว่าไฟเบอร์เลเซอร์ ที่มีความยาวคลื่น 2910 ทำให้สามารถระเหิดเนื้อเยื่อออกเป็นเหมือนแท่งเสาเข็มขนาดเล็ก การยิงเลเซอร์ในการเอาเนื้อเยื่อออกก็ทำให้เนื้อเยื่อหดตัวไปด้วย ในขณะเดียวกันยังทำให้สามารถเอาเนื้อเยื่อออกในระดับประมาณ 1-5 % ของผิวโดยที่ปราศจากอาการชาหรือไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาเย็บแผลเป็นหน้าหูอย่างที่เป็นอยู่ในการทำศัลยกรรมผ่าตัด โดยวิธีนี้ก็เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่อยากผ่าตัดที่ต้องดมยาสลบนาน ๆ และมีแผลที่จะต้องมารักษาตรงหน้าหูเป็นเวลาอีกยาวนาน คนไข้ที่เหมาะกับการรักษาแบบนี้ก็จะมีคุณภาพผิวที่ดีขึ้นด้วยขั้นตอนก็เริ่มต้นด้วยการทายาชาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นการยิงเลเซอร์ก็จะมีความรู้สึกร้อน ๆ หรือแสบร้อนได้ หลังจากการทำเลเซอร์คอลลิ่ง (Laser Coring) ไปแล้วการดูผิวจะใช้ระยะเวลา 7-14 วัน ขึ้นอยู่กับขบวนการว่าจะทำมากน้อยแค่ไหน โดยที่ผู้ป่วยควรหลบแดดและไม่โดนแสงแดดแบบการเล่นกีฬากลางแจ้งเป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งระยะเวลาในการดูแลผิวนั้นก็ประมาณใกล้เคียงกับการผ่าตัดโดยศัลยกรรมแต่ได้ความเป็นธรรมชาติมากกว่า …